April 25, 2024

กล้อง IP Camera บทวิเคราะห์และแนวโน้มในอนาคต

กล้อง IP Camera

หากพูดถึงในเรื่องของ การเติบโตของเทคโนโลยีด้านไอที ก็มีมากมายในปัจจุบัน ในหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องของตลาดโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ตลาดแท็บเล็ต ตลาดเครื่องเล่นเกมส์ออนไลน์ หรือแม้แต่ตลาด ทีวีดิจิตอล กล้องวงจรปิดแบบไอพี หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า กล้อง IP Camera ในตลาดระบบวีดีโอด้านความปลอดภัย ก็ถือว่าเป็นอีกอย่างหนึ่งไปสู่สภาพแวดล้อมการทำงานบนเครือข่าย IP นั่นคือ ระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ต่างๆ ควบคุมความปลอดภัยทั้งในร่ม (Indoor) และ นอกอาคาร (Outdoor) เพราะทุกอย่างสามารถพิมพ์ข้อมูลผ่านที่อยู่ URL ด้านบน หรือที่เรียกว่า Text URL เข้าได้โดยตรง เพื่อเปิดดูกล้องวงจรปิด จากหน้าเว็บไซต์ หรือเว็บเบราว์เซอร์ได้เลยทันที

และเนื่องจากในปัจจุบัน การก่ออาชญากรรม ขโมย โจร มีจำนวนมาก จึงเป็นเหตุให้ตลาดทั่วโลกสำหรับระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่มีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ (2555) และจะเติบโตจนมีมูลค่าประมาณ 4.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2560 โดยคิดเป็นอัตราการเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด IHS

การผนวกรวมเข้ากับระบบวีดีโอตรวจการณ์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความต้องการที่สามารถตอบสนองได้ง่ายขึ้นด้วยโซลูชั่นบนเครือข่าย IP ทั้งนี้รวมในส่วนของ กล้อง IP Camera ด้วย ซึ่งที่จริงแล้ว การทำงานแบบดิจิตอลมาตรฐานมีศักยภาพในการสร้างโอกาสที่นับไม่ถ้วนสำหรับการผนวกรวมระบบอื่นๆ เช่น การตรวจจับการบุกรุก การตรวจจับเพลิงไหม้ด้วยความร้อน และระบบอื่นๆ เข้าไว้ในระบบแบบครบวงจรที่จัดการและใช้งานได้อย่างง่ายดาย

เช่นเดียวกับตลาดของกล้องวงจรปิด CCTV ซึ่งจะมีการย้ายไปสู่ตลาดของกล้อง IP Camera มากขึ้น เพื่อใช้ในส่วนของ ระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ยังหมายถึงการเปลี่ยนย้ายจากระบบปิดไปสู่โซลูชั่นแบบเปิด และโซลูชั่นเหล่านี้จะอ้างอิงมาตรฐานอุตสาหกรรมสากลอีกด้วย เพราะกล้อง IP Camera มีความสามารถมากกว่า ปรับแต่ง ตั้งค่า ได้มากกว่า แต่ละกล้องจะมีหมายเลขไอพีเป็นของตัวเอง และสามารถพิมพ์เข้าได้โดยตรงอาทิเช่น http://xxx.xxx.xxx.xxx และ เป็นอิสระมากกว่ากล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด สมัยก่อน ที่ต้องควบคุมจากศูนย์กลาง หรือกล่อง DVR (Digital Video Recorder) เท่านั้น

นับตั้งแต่ที่มีการประดิษฐ์กล้อง IP แบบรวมศูนย์เครื่องแรกในปี 2539 ก็มีการพัฒนามาอย่างยาวไกล จากอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ไปสู่เครื่องมือที่รองรับโซลูชั่นเสริมมากมายที่ทำงานในแบบเชิงรุก โซลูชั่นเหล่านี้นอกจากจะปกป้องเราจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ทางด้านธุรกิจและขยายโอกาสใหม่ๆ อีกมากมายอย่างไม่รู้จบ นอกจากนี้ การใช้โครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์มและ API แบบเปิดยังช่วยกระตุ้นให้ทุกๆ ฝ่ายออกแบบและพัฒนาโซลูชั่นที่ฉลาดกว่าเดิม เพื่ออนาคตที่สดใสมากยิ่งขึ้น

วิเคราะห์เทรนด์ กล้อง IP Camera ในอนาคต 6 ข้อ

  • ทีวี High Definition (HDTV) จะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับกล้อง CCTV โดยจะมีความละเอียดและความไวในระดับที่เหมาะสมสำหรับการสร้างระบบวีดีโอตรวจการณ์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น เห็นละเอียดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มันจะสามารถใช้ระบุตัวบุคคลหรือวัตถุต่างๆ ในวีดีโอที่จับได้อย่างแม่นยำ โดยคุณภาพของ HDTV จะถูกเปลี่ยนจากระดับ 720p ไปสู่ 1080p ในช่วงปี พ.ศ. 2557 นี้
  • 4K คือพัฒนาการขั้นถัดไปจาก HDTV ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพวีดีโอให้ดียิ่งขึ้น สำหรับตลาดเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัย 4K เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการภาพวีดีโอที่มีรายละเอียดและคุณภาพสูง
  • กล้องที่ให้ภาพสียามค่ำคืนและไวต่อการเปลี่ยนสภาวะแสงสูงจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจะกลายเป็นคุณสมบัติมาตรฐานในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากผู้ใช้มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น และมีเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์อื่นใด เข้ามาเสริม
  • กล้องถ่ายภาพความร้อนหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Thermal Imaging Cameras” ซึ่งทำหน้าที่ “ตรวจจับ” จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความต้องการด้านการรักษาความปลอดภัย
  • โซลูชั่นแบบเคลื่อนที่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจดูภาพวีดีโอตรวจการณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถปรับขนาดของภาพและไฟล์แบนด์วิธเพื่อที่จะใช้ในการรับส่งข้อมูล เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างหลากหลาย
  • โซลูชั่นสำเร็จรูปแบบอัจฉริยะ กล้องวีดีโอตรวจการณ์มีความฉลาดมากขึ้น เพราะสามารถตั้งค่าต่างๆ ตัวกล้องโดยตรงได้มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่ากล้องวีดีโอจะเลือกและแจ้งเตือนไปยังส่วนกลางเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเพื่อแจ้งเตือนไปยังส่วนกลางในกรณีที่กล้องเกิดเสียหายหรือจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ เรียกได้ว่าตัวกล้อง IP Camera นั่นจะมีความฉลาดมากกว่ากล้องวงจรปิดทั่วๆ ไปในสมัยก่อน